ชลธีฟาร์ม จำหน่ายสินค้าทางการเกษตรทุกประเภท ปุ๋ย อาหารสัตว์ตราด

Posted on Posted in 77 จังหวัด จำหน่ายสินค้าทางการเกษตรทุกประเภท ปุ๋ย อาหารสัตว์

ชลธีฟาร์ม

ตลาดสินค้าการเกษตรที่เรารวบรวมสินค้าจากแหล่งผลิตโดยตรง สินค้ามีคุณภาพสูงในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาดทั่วไป พืชผลทางการเกษตร ผลไม้ ผัก เนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์ในการทำการเกษตรและปศุสัตว์ เช่น ปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยคอก และอาหารสัตว์ประเภทต่างๆ

โทร. 083-622-5555

ผัก-ผลไม้สด

เนื้อสัตว์ เนื้อปลา

ปุ๋ยคอก ปุ๋ยเคมี

อาหารสัตว์ต่างๆ

ชลธีฟาร์ม ศูนย์รวมสินค้าทางการเกษตรออนไลน์แบบใหม่ ไม่ต้องไปตลาด ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลาง สินค้ามีคุณภาพสูงในราคาที่คุณประทับใจ ผลิตผลจากเกษตรกรตัวจริง

ผัก-ผลไม้สด | เนื้อสัตว์ | ปุ๋ย | อาหารสัตว์ | ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ

จำหน่ายทั้งปลีกและส่ง

TEL : 083-622-5555
LINE : @chonlateefarm

ชลธีฟาร์ม

ศูนย์กลางจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรยุคใหม่ จากเกษตรตัวจริงสินค้าคุณภาพในราคาไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ลดความเสี่ยงด้วยบริการออนไลน์
ผัก-ผลไม้สด | เนื้อสัตว์ | ปุ๋ย | อาหารสัตว์ | ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรต่างๆ

TEL : 083-622-5555
LINE : @chonlateefarm

 

สั่งสินค้ากับเรา

ตราด เป็นจังหวัดชายฝั่งทะเลทางภาคตะวันออกของประเทศไทย มีเนื้อที่ 2,819 ตารางกิโลเมตร ตราดนับเป็นเมืองศูนย์กลางการค้าแห่งหนึ่งในภาคตะวันออกในช่วงปลายอยุธยา สินค้าที่ส่งออกขายยังแดนไกล โดยเฉพาะของป่า เช่น เขากวาง หนังสัตว์ ไม้หอม และเครื่องเทศต่าง ๆ ล้วนมาจากเขตป่าเขาชายฝั่งทะเลตะวันออก แถบระยอง จันทบุรี ตราด โดยลำเลียงสินค้าผ่านมาตามแม่น้ำเขาสมิง ออกสู่ปากอ่าวตราด ติดต่อกับจังหวัดจันทบุรีและประเทศกัมพูชา

 

ที่มาของชื่อตราด

ในเอกสารประวัติศาสตร์สะกดแตกต่างกัน 3 แบบ คือ "ตราษ" "ตราด" และ "กราด" คำว่า "ตราษ" เป็นคำที่เก่าที่สุดเท่าที่ตรวจสอบได้จากเอกสารประวัติศาสตร์ ปรากฏในจดหมายเหตุรัชกาลที่ 3 จ.ศ. 1206 (พ.ศ. 2387) หนังสือไปเมืองตราษว่าด้วย เกลือไม่ส่งไปเมืองพนมเปน และจดหมายเหตุรัชกาลที่ 3 จ.ศ. 1207 (พ.ศ. 2388) ใบบอกเรื่อง สืบราชการลับเมืองเขมร

ในสมัยรัชกาลที่ 4 พบคำว่า "ตราษ" และ "ตราด" ดังปรากฏในราชกิจจานุเบกษาตีพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2401–2401 ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 5 พบว่าเมืองตราดสะกดว่า "ตราด" ส่วนคำว่า "กราด" พบในหนังสือ ทำเนียบหัวเมือง ตอนที่ 1–3 ร.ศ. 119 คำว่า"ตราด" นี้อาจจะมีชื่อเรียกเพี้ยนมาจาก "กราด" อันเป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งสำหรับใช้ทำไม้กวาด ซึ่งในสมัยก่อน ต้นไม้ชนิดนี้มักจะมีมากทั่วเมืองตราด ส่วนคำว่า "ตราษ" เป็นภาษาเขมร หมายถึง ไม้ยาง ซึ่งเป็นไม้พื้นเมือง

 

ประวัติศาสตร์

ไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัดว่า เมืองตราดมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างไร แต่เท่าที่ค้นพบใน สมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (ปีพ.ศ. 1991–2031) ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการปรับปรุงเป็นบ้านเมืองครั้งใหญ่ขึ้น โดยจัดแบ่งการบริหารราชการแผ่นดิน ออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ส่วนกลางประกอบไปด้วย ฝ่ายทหาร และ พลเรือน ส่วนภูมิภาคแบ่งเมืองต่าง ๆ ออกเป็น หัวเมืองเอก หัวเมืองโทหัวเมืองตรี และหัวเมืองจัตวางตามลำดับ อย่างไรก็ตามในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ก็ไม่ปรากฏชื่อของเมืองตราด แต่อย่างใดเพียงแต่บอกว่า "หัวเมืองชายทะเลหรือ บรรดาหัวเมืองชายทะเล" เท่านั้น ต่อมาในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ปรากฏว่า บรรดาหัวเมืองชายทะเลแถบตะวันออกนั้นเรียกแต่เพียงว่า "บ้านบางพระ" ในตอนปลายของกรุงศรีอยุธยา ได้ปรากฏหลักฐานในพระราชพงศาวดารว่าบรรดาเสนาบดีจัตุสดมภ์ทั้งหลาย ได้พากันแบ่งหัวเมืองต่าง ๆ ให้ไปขึ้นกับสมุหนายก สมุหพระกลาโหมและโกษาธิบดี ทำการติดต่อค้าขายกับชาวต่างประเทศ ทางทะเล

เมืองตราดเป็นเมืองสำคัญซึ่งขึ้นอยู่กับฝ่ายการคลังของประเทศมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าปราสาททองแล้ว จนกระทั่งก่อนจะเสียกรุงศรีอยุธยาในปี พ.ศ. 2310 พระเจ้าตากสินได้รวบรวมกำลังทหาร จำนวนหนึ่ง ตีฝ่าวงล้อม ของพม่าหนีออกจากกรุงศรีอยุธยา เดินทางไปรวมตัวกัน ทางทิศตะวันออก โดยยกทัพไปถึงเมืองตราดซึ่งปรากฏในพงศาวดารว่า" ...หลังจากพระเจ้าตากสิน ตีเมือง จันทบุรีได้แล้ว เมื่อวันอาทิตย์เดือน 7 ปีกุน พ.ศ. 2310 ก็ได้เกลี้ยกล่อม ผู้คนให้กลับ คืน มายังภูมิลำเนาเดิม... "ครั้นเห็นว่าเมืองจันทบุรีเรียบร้อยอย่างเดิมแล้ว จึงยกกองทัพเรือ ไปยังเมืองตราด พวกกรมการและราษฎรก็พากันเกรงกลัวยอมอ่อนน้อม โดยดี ทั่วทั้งเมือง และขณะนั้นมีสำเภาจีน มาทอดอยู่ที่ปากน้ำเมืองตราดหลายลำ พระเจ้าตากให้ไปเรียกนาย เรือมาเฝ้าพวกจีนขัดขืน แล้วกลับยิงเอาข้าหลวง พระเจ้าตากทรงทราบก็ลงเรือที่นั่งคุม เรือรบลงไปล้อมสำเภาไว้แล้ว บอกให้ พวกจีนอ่อนน้อมโดยดีพวกจีนก็หาฟังไม่กลับเอาปืน ใหญ่น้อยระดมยิงรบกันอยู่ครึ่งวัน พระเจ้าตากก็ตีได้เรือสำเภาจีนทั้งหมด ได้ทรัพย์สิ่งของ เป็นกำลังการทัพเป็นอันมาก พระเจ้าตาก จัดการเมืองตราดเรียบร้อยแล้ว ก็กลับขึ้นมาตั้ง อยู่ ณ เมืองจันทบุรี"

เหตุการณ์สำคัญอีกเหตุการณ์หนึ่งเกี่ยวกับเมืองตราด ก็คือ เมื่อปี พ.ศ. 2446 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประเทศไทยได้เสียดินแดน ให้แก่ประเทศฝรั่งเศส เนื่องมาจากการตกลงทำสนธิสัญญา กับฝรั่งเศสเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2446 (ร.ศ. 122) ซึ่งทำให้ไทยจำต้องยกดินแดนจังหวัดตราด และ เกาะต่าง ๆ ตั้งแต่อำเภอแหลมสิงห์ จ.จันทบุรีไปจนถึงเกาะกูด และจังหวัดปัจจันตคิรีเขตร หรือ เกาะกง ให้แก่ฝรั่งเศสเพื่อแลกเปลี่ยน ให้ฝรั่งเศสถอนกองทหารไปจากจันทบุรี โดยสัญญาฉบับนี้ ได้ให้สัตยาบันต่อกันและมีผลทำให้กองทหารฝรั่งเศส ถอนออกไปจากเมืองจันทบุรีตามสัญญา เมื่อ 12 มกราคม พ.ศ. 2447

 

อาณาเขตติดต่อ
  • ทิศเหนือติดด่อกับอำเภอสำลูต จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา และอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี
  • ทิศตะวันออกติดต่อกับอำเภอมณฑลเสมา จังหวัดเกาะกง และจังหวัดโพธิสัตว์ ประเทศกัมพูชา
  • ทิศใต้ติดต่อกับชายฝั่งทะเลทางอ่าวไทย
  • ทิศตะวันตกติดต่อกับอำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี

 

การปกครองแบ่งออกเป็น อำเภอ 38 ตำบล 261 หมู่บ้าน

อำเภอเมืองตราด
อำเภอคลองใหญ่
อำเภอเขาสมิง
อำเภอบ่อไร่
อำเภอแหลมงอบ
อำเภอเกาะกูด
อำเภอเกาะช้าง